ฟันผุติดต่อได้ !
ผ่านการหอม จูบ 😘
หรือเป่าข้าวให้ลูก (แต่ไม่ติดต่อผ่านพันธุกรรม)
กิจกรรมต่าง ๆ ไม่ว่าจะเป็น การหอม การจูบลูก ๆ การเป่าอาหารให้หายร้อน การใช้ช้อนร่วมกับเด็ก ๆ ล้วนแล้วแต่เป็นพฤติกรรมที่ส่งผลให้ลเด็กได้รับเชื้อฟันผุในช่องปากของแม่หรือคนเลี้ยงไปด้วย งานวิจัยที่ตีพิมพ์โดย Australian Dental Journal ในปี 2007 ระบุว่าเด็กที่ฟันผุส่วนใหญ่ได้รับเชื้อมาจากคนที่เลี้ยงดูอย่างใกล้ชิด จากการตรวจสอบที่พบว่าในช่องปากของทั้งคนเลี้ยงและเด็ก มีเชื้อที่ทำให้ฟันผุตัวเดียวกัน
ผู้ปกครองหลายท่าน อาจยังไม่เห็นว่าฟันผุในเด็กจะเป็นอันตรายมากนัก เพราะเป็นเพียงฟันน้ำนม
“ฟันน้ำนมเดี๋ยวก็หลุด ฟันแท้ขึ้นแล้วค่อยดูแล”
ซึ่งเป็นความเชื่อที่ผิด เพราะฟันผุตั้งแต่เด็ก นอกจากจะสามารถผุลามไปยังซี่อื่น ๆ ได้แล้ว ฟันผุจะทำให้ลูกรู้สึกเจ็บ และเจริญอาหารน้อยลงได้ รวมถึงเด็กบางคนที่ต้องถอนฟันก่อนเวลาอันควร อาจทำให้เกิดปัญหาฟันเก หรือฟันซ้อนตามมา ดังนั้นจึงเป็นหน้าที่ของคุณพ่อคุณแม่ ที่จะช่วยปกป้องดูแลยิ้มสวย ๆ ของลูกเอาไว้นะคะ
จริง ๆ แล้ว การสร้างสุขภาพฟันที่ดีของลูก ๆ นั้น คุณแม่สามารถทำได้ตั้งแต่เริ่มตั้งครรภ์เลยนะคะ เพราะอย่างที่หมอเคยเขียนไว้ในเรื่อง ‘ฟันผุขณะตั้งครรภ์’ โดยการดูแลช่องปากของคุณแม่ให้สะอาด ไม่มีปัญหาฟันผุ เหงือกอักเสบ เพื่อลดการส่งผ่านเชื้อฟันผุจากแม่สู่ลูก หมอจึงแนะนำให้ตรวจสุขภาพฟันทันทีที่ทราบว่าตั้งครรภ์ หรือช่วงที่เหมาะที่สุดในการเข้าพบทันตแพทย์เพื่อรับการรักษาขณะตั้งครรภ์ก็คือเดือนที่ 4-6 ของการตั้งครรภ์ค่ะ
ถัดมา เมื่อลูก ๆ โตขึ้นมาหน่อย ก็เริ่มสอนให้รู้จักดูแลรักษาความสะอาดช่องปากและฟัน ปลูกฝังนิสัยการกินที่ดีให้กับลูก หมอพบว่าหลาย ๆ ท่านเชื่อกันว่า “ฟันผุ ส่งต่อผ่านพันธุกรรม” ซึ่งความเชื่อนี้ก็ไม่ถูกเช่นกันค่ะ แต่การที่พ่อแม่ฟันผุ แล้วลูกฟันผุด้วย คิดว่าน่าจะเป็นเพราะลักษณะนิสัยการกินที่คล้าย ๆ กัน และการปลูกฝังวิธีการดูแลช่องปากและฟันตั้งแต่เด็กนั่นเอง