🔩 ฝังรากฟันเทียม มีขั้นตอนยังไงบ้างนะ?
#ฟันดีดี จะมาอธิบายวิธีการฝังรากฟันเทียม ให้ฟังกันแบบเข้าใจง่ายๆ
การฝังรากฟันเทียม เป็นอย่างไร?
เป็นการผ่าตัดโลหะฝังลงในขากรรไกรเพื่อทดแทนตำแหน่งฟันที่หายไป โดยรากเทียมจะทำงานร่วมกับกระดูกขากรรไกร แล้วใส่ฟันเทียมลงไปบนราก เพื่อให้เป็นฟันเทียมที่สามารถใช้งานได้เหมือนกับฟันแท้นั่นเอง
ขั้นตอนในการทำรากฟันเทียมมีอะไรบ้าง?
📌 1.ตรวจคัดกรองประเมินสุขภาพช่องปาก โดยทันตแพทย์จะตรวจสุขภาพทั่วไป ประเมินฟันเทียม และประเมินเนื้อเยื่ออ่อนในช่องปากของเรา เพื่อดูว่าสามารถทำรากฟันเทียมได้หรือไม่
📌 2.ถ่ายภาพรังสี ประเมินกระดูกในช่องปาก หรือเป็นการ X-Ray เพื่อตรวจปริมาณกระดูกในช่องปากและขากรรไกรว่ามีความเหมาะสมต่อการทำรากฟันเทียม ซึ่งขั้นตอนนี้ฟีนดีดีบอกได้เลยว่า ปลอดภัยแน่นอน ไม่ต้องกลัวรังสี X-Ray นะจ๊ะ!
📌 3.ผ่าตัดใส่รากฟันเทียม ลงบนขากรรไกร โดยทันตแพทย์จะผ่าตัดฝังรากเทียมลงในกระดูกขากรรไกร รอให้แผลหายและมีการสร้างกระดูกมาล้อมรากฟันเทียม มักใช้เวลาประมาณ 3-6 เดือน ขึ้นอยู่กับสภาพกระดูกของคนไข้นั่นเองค่า
📌 4.ใส่ฟันลงบนรากเทียมและปรับแต่งให้เรียบร้อย เมื่อรากฟันเทียมรองรับขากรรไกรเรียบร้อยดีแล้ว ทันตแพทย์จะทำการผลิตฟันปลอม ต่อแกนฟันและครอบฟันเข้ากับรากเทียม เกิดเป็นฟันเสร็จสมบูรณ์พร้อมใช้งาน ซึ่งจะมีสีคล้ายฟันธรรมชาติซี่อื่นๆ
📌 5.ติดตามการรักษา ทุก 3 – 6 เดือน กับทันตแพทย์เพื่อตรวจสอบว่าสามารถใช้งานรากฟันเทียมได้มีประสิทธิภาพ ที่สำคัญต้องหมั่นดูแลทำความสะอาดช่องปากอย่างสม่ำเสมอด้วยนะ!
ข้อดีของการทำรากฟันเทียม
✅ เพิ่มประสิทธิภาพการบดเคี้ยว การพูดได้เป็นปกติมากขึ้น
✅ การใช้งานคล้ายฟันธรรมชาติ มีความแข็งแรง
✅ ไม่ต้องถอดเข้าออกบ่อยๆ เหมือนใส่ฟันเทียมชนิดถอดได้
ข้อจำกัดของการทำรากฟันเทียมที่ต้องรู้
⚠️ ใช้เวลาในการรักษานาน เพราะต้องรอให้กระดูกยึดกับรากฟันเทียม
⚠️ มีค่าใช้จ่ายสูงกว่าการทำฟันเทียมชนิดถอดได้
⚠️ อาจไม่สามารถทำได้ในผู้ป่วยบางราย เช่น ผู้ที่สูบบุหรี่จัด หรือผู้ที่เป็นโรคเบาหวาน เนื่องจากอาจเกิดภาวะแทรกซ้อนหรือติดเชื้อได้
สุดท้ายนี้ #ฟันดีดี ขอแนะนำให้ทุกคน อย่าลืมไปตรวจสุขภาพช่องปากอย่างน้อยปีละ 1 ครั้ง ถ้ายังอยากมีฟันสวยๆ ไว้ใช้งานต่อไปนานๆ นั่นเองค่า
ที่มา : กรมอนามัย กระทรวงสาธารณสุข, โรงพยาบาลบำรุงราษฎร์, Medpark Hospital