‘แปรงฟันแห้ง’ เทรนด์มาแรง แซงทุกวิธี
แปรงฟันแบบไม่บ้วนน้ำ ! เก็บฟลูออไรต์ไว้ในปากให้นานที่สุด
แปรงฟันเอาแค่เศษอาหารออกไม่ใช่หรือ?
แล้วฟลูออไรด์เกี่ยวอะไร ?
ฟลูออไรด์มีประโยชน์ต่อสุขภาพช่องปากเราแน่นอน เพราะช่วยทำให้ฟันเราทนต่อกรดที่ผลิตจากเชื้อโรคในช่องปากได้ดีขึ้น จึงช่วยลดความเสี่ยงที่จะเกิดฟันผุได้ เราควรใช้ยาสีฟันที่มีฟลูออไรด์ โดยให้ดูที่ข้างกล่องยาสีฟันว่าต้องมี ‘ฟลูออไรด์ปริมาณ 1000 ppm.’
เทคนิคการแปรงฟันแห้งจะช่วยให้ฟลูออไรด์อยู่ในช่องปากหลังการแปรงฟันได้นานขึ้น จึงช่วยเพิ่มประสิทธิภาพของการแปรงฟันด้วยยาสีฟันที่มีฟลูออไรด์ให้ดียิ่งขึ้นไปอีก การแปรงฟันด้วยยาสีฟันที่ไม่มีฟลูออไรด์ สามารถทำความสะอาดเศษอาหารและกำจัดเชื้อโรคได้ แต่ไม่ช่วยเรื่องการกระตุ้นให้มีการคืนกลับแร่ธาตุที่สูญเสียไปจากกรดที่เกิดจากการกินอาหาร
แปรงฟันแห้ง = ฟันแข็งแรงกว่า
เพราะการใช้น้ำให้เปียก ๆ แบบเราเคยชิน ทำให้การแปรงฟันนั้นไม่มีประสิทธิภาพเต็มที่ โดยเฉพาะฟลูออไรด์แทนที่จะได้เคลือบฟัน ดันหลุดไปกับน้ำที่บ้วนปากเสียหมด
แห้งก่อนแปรง แห้งหลังแปรง
- แห้งก่อนแปรง
ปกติเราจะชินกับการเอาแปรงสีฟันผ่านน้ำหรือจุ่มน้ำก่อนบีบยาสีฟันให้ชุ่ม ๆ ซึ่งไม่จำเป็น เพราะจะทำให้มีฟองเกิดขึ้นมาก แต่ถ้าอยากจะล้างแปรงสีฟันก่อนใช้ เราควรเคาะเอาน้ำออกให้มากที่สุดก่อนบีบยาสีฟัน - แห้งหลังแปรงเสร็จ
เลิกบ้วนน้ำหลังแปรงฟัน โดยพอแปรงเสร็จเราควรแค่บ้วนฟองออกให้หมดโดยไม่ใช้น้ำเลย - งดกิน/ดื่ม หลังแปรงฟัน 2 ชั่วโมง
เมื่อเราแปรงฟันแล้ว เราก็ควรปล่อยให้ฟลูออไรด์จากยาสีฟันได้ทำงานอย่างเต็มที่ด้วย เราจึงควรงดกิน/ดื่มน้ำหลังแปรงฟันสัก 2 ชั่วโมงนะ ฟลูออไรด์จะได้ทำงานอยู่ในปากได้อย่างเต็มที่
สำหรับคนที่ไม่เคยแปรงฟันด้วยวิธีใหม่นี้ ช่วงแรกอาจจะยังไม่ชิน ก็อาจอนุโลมให้บ้วนน้ำหลังแปรงฟันได้บ้าง โดยพยายามบ้วนให้น้อยที่สุดเท่าที่ตัวเองจะพอรับได้ แล้วค่อย ๆ ลดการบ้วนน้ำลงจนกระทั่งไม่ต้องบ้วนน้ำอีกต่อไป
ที่มา: สำนักทันตสาธารณสุข กรมอนามัย



